m1vwlmt161

"Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings หนังซูเปอร์ฮีโรที่กว่า 90% ของเรื่องจะใช้นักแสดงเชื้อสายทวีปเอเชียทั้งผองอย่างที่ Kevin Feige ประกาศไว้ ว่าจะไม่ “ฟอก” ที่หมายถึง นำผู้แสดงฝรั่งผิวขาวมารับบทในหนังที่เนื้อหาจะต้องเป็นคนตามเชื้อชาตินั้น (จีนในต่อไปนี้) ควรที่จะนำแสดง หนังก็ได้ประพฤติตามที่สตูดิโอได้ลั่นคำพูดเอาไว้จริงๆกับการประกาศรายชื่อ 2 ดาราหนังใหม่ที่จะมารับบทสำคัญของเรื่อง

คนแรกคือ Ronny Chieng จาก Crazy Rich Asians (2018) นอกจากเป็นดาราแล้วเขายังเป็นนักพูดสายเฮฮาอีกด้วย ในรายงานของสื่อล่าสุดที่ได้ไปสังเกตในอินสตาแกรมสตอรีของเขา จะมีความเห็นว่าเขากำลังฟิตร่างกายอยู่ในโรงยิมเดียวกันกับที่ Simu Liu ใช้และก็แทบจะตรงเวลาเดียวกัน

ส่วนอีกรายหนึ่งเป็น Fala Chen ผู้แสดงสาวรวมทั้งศิลปินชาวฮ่องกง (รายนี้น่าจะยืนยันได้หนักแน่นกว่า เพราะรายนามปรากฎในเว็บข้อมูลหนังอย่าง iMDB แล้ว) เธอผลงานในหนังจีนทางโทรทัศน์อย่าง Ghost Writer และ Queens of Diamonds and Hearts รวมทั้งภาพยนตร์จีนเรื่อง Turning Point (2009) และก็ในปีนี้จะไปตามติดกับ Nicole Kidman แล้วก็ Hugh Grant ในซีรีส์ The Undoing จะมาร่วมรับบท “เลอิโกะ หวู” ข้าราชการหน่วยข่าวกรองของ MI6 ที่อยู่ฝั่งพระเอกแชงชิ นี่ก็เลยน่าจะเป็นปีที่คุณได้เริ่มปฏิบัติงานในฮอลลีวูดอย่างเอาจริงเอาจังเป็นปีแรก

ข่าวซุบซิบเรื่องราวภาคแรกของหนัง Shang-Chi ที่มีออกมาที่ผ่านมา กล่าวว่าหนังจะเล่าถึงตัวนำชางชิผู้มีพลังพิเศษ เขาเติบโตในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทำงานฝึกฝนเด็กๆให้เก่งหัวข้อการต่อสู้ โดยมีเจ้าของเป็น “แมนดาริน” แต่ว่าสุดท้ายชางชิก็หนีออกมาจากที่นั่นแล้วก็เริ่มดำรงชีวิตที่จะต้องหนีออกมาจากเงื้อมมือของแมนดารินตลอดทั้งชีวิต นับเป็นเวลาหลายปีต่อมาชางชิได้พบกับแมนดารินอีกครั้งและได้รับข้อเสนอแนะบางสิ่งบางอย่าง แมนดารินคำสัญญาว่าจะให้อีกทั้งเงินและก็อำนาจพร้อมกับรับปากว่าจะเลิกไล่ล่าเขา หากว่ายอมร่วมศึกแข่งขันที่จำต้องต่อสู้กับผู้มีพลังพิเศษอีกคน ใครก็ตามที่ชนะการประลองนี้จะได้รางวัลเป็นแหวน 10 ดูหนังออนไลน์ วงในตำนานที่มีพลังอำนาจอย่างมากมาย ซึ่งเป็นที่แจ้งชัดว่าแมนดารินอยากได้แหวนพวกนั้น และก็เหตุผลที่เขาจะต้องพึ่งชางชิก็เพราะว่าเขาแก่เกินไปที่จะเข้าสู่การประลองคราวนี้

Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings โดยจะได้ดาราหนังเชื้อสายทวีปเอเชียอย่าง Simu Liu ที่จะมารับบทแชงชิสมทบด้วยผู้แสดงสาว Awkwafina จาก The Farewell (2019) รวมถึง Tony Chiu-Wai Leung หรือเหลียงเฉาเว่ย ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังจากฮ่องกง สวมบทเป็นแมนดาริน หนังจะกำกับโดย Destin Daniel Cretton ที่มีผลงานก่อนหน้าเป็นหนังดราม่าที่กำลังเข้าฉายในสหรัฐฯ Just Mercy รวมทั้ง The Glass Castle โดยจะพรีเซนเทชั่นเรื่องราวของฮีโรผ่านวิถีการต่อสู้แบบกังฟู มีกำหนดเข้าฉายปัจจุบันในสหรัฐฯ 7 เดือนพฤษภาคม 2021 หรืออีกเกือบ 1 ปีนับจากนี้"

"การกลับมาของภาค 9 ดูหนังออนไลน์ พร้อมคำนิยามชื่อแฟรนไชส์ว่าเป็น The Fast Saga

ภาค 9 นี้ ต้อนรับผู้กำกับ Justin Lin กลับสู่อ้อมอกของแฟรนไชส์อีกรอบ รวมถึงการได้นางอิจฉา Charlize Theron ในบท “ไซเฟอร์” กลับมาด้วย ผู้ชมจะได้เห็นครอบครัวของทอเร็ตโตและก็ลูกชายตัวน้อย พร้อมด้วยภรรยา “เล็ตตี้” แล้วก็ยังได้นักมวยปลุกปล้ำที่มาเอาดีทางการแสดงอีกคนอย่าง John Cena ไปสู่แฟรนไชส์ กับหน้าที่ “น้องชายของดอม” ที่จะมาเป็นคู่แข่งคนใหม่ แต่ตัวอย่างก็ชักชวนให้น่าพิจารณาว่า จะเป็นตัวร้ายเลียนแบบๆที่ต้องไปตามดูตัวร้ายจริงในเรื่องกันอีกครั้ง

การกลับมาของผู้กำกับ Lin ที่พาผู้แสดงสุดรักของเขา (รวมถึงดาราคู่บารมีอย่าง Sung Kang) อย่าง “ฮาน” กลับมาด้วย ก็สร้างความฉงนแล้วก็ความเซอร์ไพรส์ให้แฟนคลับกรี๊ดแตกว่าตัวละครที่ตายไปแล้วตัวนี้ยังจะกลับมาอีท่าไหนได้ “ในระหว่างที่ผมแยกออกมาจากแฟรนไชส์ใน ภาค 6 ผมมีความรู้สึกว่าได้วางเรื่องราวของผู้แสดงฮานให้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้วในขณะนั้น แต่ว่ามันก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับผมในเวลาถัดมา ผมรู้สึกว่าจะโอเคไหมที่เราจะเอาเขากลับมาอีก มันขึ้นกับพวกเราที่จะนำฮานกลับมายังไง เพื่อที่จะนำบรรยากาศเก่าๆที่เรารู้จักดีกลับมาด้วย ไม่ใช่ง่าย มันต้องใช้ความเพียรพยายามมหาศาล” ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องง่ายจริงๆกับการให้เหตุผลที่ไม่หลุดโลกมากว่าฮานยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?

ในภาคนี้อาจมีดรามาเฟมินิสต์เล็กๆเกิดขึ้น เมื่อนักแสดงสาว Michelle Rodriguez ออกมาโพสต์เนื้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ฉันก็หวังว่าคณะทำงานจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งที่บ่งบอกถึงถึงความรักแล้วก็ยกย่องที่มีต่อผู้แสดงเพศหญิงในภาคต่อไป หรือไม่ก็อาจเป็นฉันที่ต้องบอกลาหนังแฟรนไชส์สุดที่รักนี้” ที่ผ่านมา Rodriguez เคยออกมาให้ความเห็นในตอนที่ภาค 8 เพิ่งเปิดตัวฉาย ว่าหนังให้ความสำคัญกับฉากบู๊แอ็กชัน จุดโฟกัสไปที่ความแข็งแกร่งของผู้ชายเยอะเกินไป ซึ่งคุณมองว่าเป็นต้นเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำร้ายแรงในสังคมโลก

หรือ “ไบรอัน” จะกลับมาอีกคน?

ในแบบอย่างของหนังภาค 9 เปิดขึ้นมาด้วยเพลง See You Again ซึ่งผู้กำกับ Justin Lin ที่กลับมาด้วยกับภาคนี้ เปิดเผยว่า ที่เลือกเพลงนี้เริ่มด้วยเหตุว่าอยากจะเน้นย้ำเรื่องความผูกพันของครอบครัวมากขึ้นไปอีก เชื้อเชิญให้สงสัยว่าหรือผู้แสดงไบรอันของ Paul Walker จะกลับมาในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา Vin Diesel ก็เคยลงรูป Cody Walker พี่ชายของ Paul Walker มายอดเยี่ยมกองถ่ายด้วย แต่ว่าล่าสุด ผู้แสดงร่วมในเรื่องอย่าง Tyreese Gibson ก็ได้เผยออกมาว่า ครอบครัวของ Paul อยากที่จะให้บทไบรอันสิ้นสุดลงแค่ภาค 7 เท่านั้น “จากที่ผมได้สนทนากับบิดามารดาของ Paul พวกเขาต้องการที่จะให้หนังภาค 7 เกิดเรื่องในที่สุดของไบรอัน และก็พวกเขาได้ส่งข้อความมาอวยพรตอนรอบปฐมทัศน์ของ Fast 8 ให้หนังเดินหน้าต่อไป และก็พวกเขาพร้อมให้การสนับหนุนหนังตลอดกาล”"

"หนังรถยนต์ซิ่งที่จะไปสู้กันถึงอวกาศก็น่าจะไปได้ใน The Fate of the Furious ภาค 8

ด้วยความที่หนังภาค 7 ได้ใช้โอกาสสำหรับในการร่ำลาตัวละครไบรอันของ Paul Walker ทำให้ความสะเทือนใจกลายเป็นแรงกระตุ้นให้หนังบรรลุความสำเร็จทางรายได้นอกจากความสนุกสนานร่าเริงของหนังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (เช่นเดียวกันกับในกรณีของ The Dark Knight (2008) ที่ผู้ชมแห่ไปดูด้วยเหตุว่าเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของ Heath Ledger ก่อนเสียชีวิต) ทำให้หนังภาคนี้ก็โดนจับตามองว่า ท้ายที่สุดจะทำความเสร็จได้ใกล้เคียงจากภาคที่แล้วหรือไม่ หนังเปลี่ยนมือผู้กำกับอีกรอบเป็น F. Gary Gray ที่เคยทำหนังอาชญากรรมของชาวผิวสีที่ได้รับความนิยมพอประมาณในยุค 90s มาก่อนอปิ้ง Set It ดูหนังออนไลน์ Off (1996) เคยทำหนังปล้นที่มีฉากไล่ล่าด้วยรถยนต์สุดระทึกอย่าง The Italian Job (2003) และเคยกำกับหนังที่ Diesel นำแสดงอย่าง A Man Apart (2003) “ผมไม่บีบคั้นเพราะเหตุว่าผมมีมุมมองของตัวผมเอง” ผู้กำกับให่สัมภาษณ์เอาไว้

ในภาคนี้หนังได้สองดาราหญิงผู้ครอบครองรางวัลออสการ์มารับบทตัวร้ายแล้วก็บทนำ อีกทั้ง Charlize Theron ที่เคยร่วมงานกับ Gray มาตั้งแต่ The Italian Job รวมทั้ง Helen Mirren จาก The Queen (2006) “ฉันอยากขับรถซิ่งในเรื่องนะ แม้กระนั้นโชคร้ายที่ฉันอด…ไม่แน่บางครั้งก็อาจจะได้ขับในหนัง Fast 12” เธอกล่าวอย่างชวนขัน ที่คุณไม่ได้ขับรถซิ่งเลยเนื่องจากว่ามารับบทเป็นแม่ของเด็ดคาร์ดและก็โอเว็น ชอว์ที่แปลงเป็นเข้ากลุ่มเป็นตัวดีฝั่งเดียวกับดอม ที่ทำให้แฟนคลับFast ส่วนใดส่วนหนึ่งเสียเส้นไปเหมือนกันกับการกลับลำอย่าง่ายดายเหลือเกินของตัวร้ายในภาคก่อนสองตัวนี้ ในที่สุดแม้หนังจะไม่สามารถที่จะล้มสถิติรายได้ของภาค 7 ลงได้ แต่หนังก็ทำรายรับรวมทั่วทั้งโลกผ่านหลักพันล้านเหรียญฯ ไปที่ 1,236 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ 250 ล้านเหรียญฯ

เมื่อมีการประกาศสร้างมาถึงภาค 8 แล้ว Diesel ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างของหนังด้วยก็บอกว่า หนังน่าจะดำเนินเรื่องไปจบที่ภาค 10 ซึ่งจะเป็นภาคสุดท้าย ในเวลาที่ Universal ก็ไม่ปล่อยให้แฟรนไชส์นี้ต้องหมดสิ้น ด้วยการแตกหน่อขยายจักรวาลที่เริ่มไปแล้วกับ Hobbs & Shaw (2019) ที่ก็ทำรายได้ทั้งโลกไป 759 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ และก็ Universal ก็พอใจกับรายได้นี้จนกระทั่งติดเครื่องสร้างภาค 2 ของภาคแยกนี้เป็นที่เรียบร้อยแม้กระนั้นยังไม่ประกาศกำหนดถ่ายทำแล้วก็เข้าฉายในตอนนี้"

"Furious 7 ภาคที่ยิ่งใหญ่และช้ำใจที่จำเป็นต้องเอ่ยคำลา

เป็นภาคที่มากับความเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้าน แต่ก็กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้หนังหัวข้อนี้แปลงเป็นประวัติศาสตร์ด้วยกันของดาราหนัง คณะทำงาน และก็ผู้ชม หนังได้รับการอนุญาตสร้างภายหลังภาค 5 ทำรายได้ดีตามคาด โดยจะถ่ายภาค 6 รวมทั้ง 7 อย่างสม่ำเสมอกัน แม้กระนั้นนักแสดงรวมทั้งทีมงานหลายคนก็เริ่มบ่นว่าไม่ไหว ไล่มาตั้งแต่ Dwayne Johnson ที่คิวงานเรื่องอื่นมาจ่อรออยู่แล้ว (ก็เลยทำให้เขามาเล่นได้เพียงแค่ในช่วงต้นเรื่องก่อนที่จะตัวละครฮ็อบส์จะเจ็บ รวมทั้งกลับมาอีกทีในช่วงท้ายเรื่อง) คนถัดมาคือผู้กำกับ Lin ที่ไม่สามารถที่จะทำ Post-Production ดูหนังออนไลน์ ในขั้นตอนตัดต่อภาพยนตร์ภาค 6 ไปกับจัดแจงถ่ายหนังภาค 7 ได้ แต่ว่าค่าย Universal ก็ขอไม่รอเพราะไม่มีหนังแฟรนไชส์ทำเงินอยู้ในมือเลยในปีนั้น

บริษัทหนังจึงหันมาพอใจผู้กำกับเชื้อสายออสเตรเลีย-จีน-มาเลเซีย ที่กำลังมือขึ้นสุดๆจากหนังสยองขวัญอย่างแฟรนไชส์ Saw แล้วก็ The Conjuring อย่าง James Wan เขาเคยเปรยกับโปรดิวเซอร์อย่าง Neal H. Moritz ว่า “ถ้า Lin ถอนตัวขณะใด ผมพร้อมทิ่ม” ซึ่งพอถึงเวลา Moritz ก็ให้เขาเสียบจริงๆทำให้นี่กลายเป็นหนังแอ็กชันฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของ Wan (ต่อมาเขาได้กำกับ Aquaman (2018) หนังซูเปอร์ฮีโรของดีซีต่อ) หนังยกฐานะการถ่ายทำกลายเป็นหนังที่ถ่าย “ทั่วโลก” ของแท้ ด้วยเหตุว่ามีโลเคชันตั้งแต่เมืองแอตแลนตา, หน้าจอร์เจีย, โคโลราโด ในสหรัฐฯ ข้ามไปถึงตะวันออกกลางอาบูดาบี ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ Wan ก็สร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้โดยมีแรงดลใจเป็นหนังอย่าง Seven Samurai (1954) (Wan อยากใช้ชื่อหนังว่า Furious Seven แบบเป็นตัวหนังสือแต่บริษัทผลิตภาพยนตร์ไม่ยินยอม)แล้วข่าวไม่ดีที่เสมือนสายฟ้าฟาดผู้แสดงและก็คณะทำงานทุกคนก็เกิดขึ้น เมื่อ Paul Walker ดาราหลักของเรื่องเกิดได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2013 ตอนเทศกาลวันขอบพระคุณพระเจ้า ด้วยวัยเพียงแค่ 40 ปี Vin Diesel ได้ออกมาประกาศเลื่อนระบุฉายของหนังจากปี 2014 ไปเป็น 10 เดือนเมษายน 2015 หรือราว1 ปี ความยากของ James Wan ก็คือหนังพึ่งจะถ่ายทำฉากที่มี Paul ไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียว แล้วก็ยากเกินกว่าจะย้อนกลับไปถ่ายทำใหม่ทั้งเรื่องแบบไม่มีนักแสดง “ไบรอัน” ก็เลยจะต้องขจัดปัญหาโดยให้น้องชายทั้งคู่คนของ Paul มาแสดงแทนรวมทั้งใส่ CGI ใบหน้าของเขาเข้าไปแทนในฉากอีกครึ่งนึงที่เหลือ (ถ้าหากมองเห็นในหนังจะมีหลายฉากที่ถ่ายแบบไกลๆและก็เลี่ยงไม่ให้มองเห็นหน้าของ Paul) รวมถึงการใช้ฉากที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในภาค 5 มาใส่ไว้ด้วย (ดังเช่น ฉากที่คุยกับมีอาในโรงรถ หรือฉากคุยกับดอมบนเรือบินระหว่างไปอาบูดาบี)"

"ตำรวจอเมริกาเปิดไซเรนไล่คนเข้าบ้านตอนเคอร์ฟิว ด้วยเสียงจากหนังคืนล้างบาป The Purge

ตอนที่เมืองไทยประกาศเคอร์ฟิวให้ทุกคนห้ามออกจากที่พักอาศัยในช่วง 22.00 น. – 04.00 น. เพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในหลายประเทศก็มีการใช้มาตรการดังที่กล่าวถึงมาแล้วด้วยเหมือนกัน เป็นต้นว่าในเมืองครอคอยวลีย์ (Crowley) รัฐลุยเซียนาของอเมริกาก็พึ่งจะประกาศเคอร์ฟิว ห้ามพสกนิกรออกนอกบ้านในระยะเวลา 21.00 น. – 06.00 น. เช่นเดียวกัน

และก็เมื่อวันที่ 2 เดือนเมษายนก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นวันแรกของการประกาศเคอร์ฟิวที่เมืองนี้ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็ออกมาประกาศเตือนพลเมืองด้วยวิธีที่แปลกแปลกและหลอนไปด้วย หากผู้ฟังเคยดูภาพยนตร์ The Purge ที่มีออกมาแล้ว 4 ภาค (2013-2018) เพราะเหตุว่าคุณพี่ตำรวจเล่นขับขี่รถเปิดเสียงไซเรนในช่วงก่อนถึงเวลาเพื่อให้ผู้คนกลับเข้าไปในบ้าน ด้วยเสียงเพลงเดียวกันกับในหนังเรื่องนั้นคลิปรถยนต์ตำรวจเปิดไซเรนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ได้เปลี่ยนเป็นกระแสดังในโลกออนไลน์อย่างยิ่ง จนถึงทำให้ Jimmy Broussard สารวัตรประจำสถานีตำรวจเมืองคคอยวลีย์ จำเป็นต้องออกมากล่าวว่า “เราไม่เคยทราบเลยว่ามันเป็นเสียงไซเรนเดียวกับที่อยู่ในหนัง The Purge ภายหลังจากนี้พวกเราคงไม่ใช้เสียงนี้อีกแล้วล่ะ”

หนังทั้ง 4 ภาคของ The Purge เป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำที่ไปถึงเป้าหมายสูง เล่าของคืนไถ่บาป ซึ่งเป็นวันฆ่าโหดที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จัดให้ราษฎรทุกคนทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้ทุกสิ่งทุกอย่างตรงเวลา 12 ชั่วโมง รวมถึงขืนใจและการฆ่า คนที่ไม่ได้อยากร่วมกิจกรรมนี้ก็จำต้องขังตัวเองอยู่ในบ้านไว้ให้ดี นักแสดงหลักของแต่ละภาคก็จะตกอยู่ในเหตุการณ์ที่จะต้องเอาตัวรอดกันไปต่างๆนานาในคืนไถ่บาปนี้ก่อนจะเช้าเมื่อกลางปีที่แล้ว Blumhouse Productions ได้ลงภาพบนทวิตเตอร์ที่มี Sylvester Stallone อยู่ด้วย รวมทั้งเล่าว่าได้มานัดประชุมกัน ดูหนังออนไลน์ นำไปสู่การคาดเดาว่า ทั้งคู่บางครั้งอาจจะร่วมงานกันในหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ คนหนึ่งที่อยู่ในรูปด้วยแล้วก็น่าจะเป็นตัวช่วยบอกใบ้ได้ก็คือ James DeMonaco ผู้ผลิตหนังชุด The Purge โดย Blumhouse Productions ได้จัดเตรียมสร้าง The Purge 5 แล้วก็ตั้งมั่นให้เป็นภาคสุดท้ายของหนังชุดนี้ DeMonaco ซึ่งควบคุมแล้วก็เขียนบท 3 ภาคแรกจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพียงเขียนบทในภาคนี้เสมือนภาค The Purge: Anarchy โดยมอบหน้าที่ดูแลให้ Everardo Gout จากซีรีส์ Mars"

"เริ่มด้วยในขณะที่ 1 : Ponyo is Here เล่าถึงขณะที่มิยาซากิคาดคั้นไอเดียสุดพลัง เพื่อค้นหาภาพที่ใช้เป็นคีย์หลักใน โปเนียว อนิเมะเรื่องใหม่ในช่วงเวลานั้น ซึ่งเป็นตอนๆเดียวกับที่โกโร ไม่ยาซากิ ลูกชายของเขาดูแล “ศึกเทพมังกรพิภพสมุทร” (Tales from Earthsea) ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องแรก ท่ามกลางเสียงแย้งจากผู้เป็นบิดา

ขณะที่ 2 : Drawing What’s Real บันทึกช่วงเวลาที่ขั้นตอนการผลิตโปเนียวเดินหน้าเต็มพิกัด ขยายให้มองเห็นความตั้งใจในรายละเอียดของมิยาซากิ พร้อมเล่าย้อนถึงวัยเด็กของเขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความหมกมุ่นในงานอนิเมะ และก็ขัดเกลาให้เกิดผลงานของผู้กำกับชื่อก้องในเวลาถัดมา

ในขณะที่ 3 : Go Ahead – Threaten Me หลังจากศึกเทพมังกรโลกมหาสมุทรรวมทั้งโปเนียวประสบผลสำเร็จอย่างอวบท้น ต้นปี 2010 โกโร ลูกชายของไม่ยาซากิเริ่มลงมือผลิตอนิเมะยาวเรื่องลำดับที่สอง “ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์” (From Up on Poppy Hill) หากแม้ความไม่ลงรอยกันของบิดาลูกเป็นที่มองเห็นชัดเจน แม้กระนั้นสารคดีก็เปิดเผยให้เห็นความสัมพันธ์แบบ “รักนะแต่ว่าไม่แสดงออก” ของทั้งคู่ ไปกับแนวคิดการทำงานที่สุดด้านหลังแล้วไม่มีความแตกต่างกันของทั้งสอง ขณะเดียวกันไม่ยาซากิก็ได้เริ่มต้นงานใหม่ที่ไม่เหมือนกันกับทุกอย่างที่เขาเคยทำมา

สำหรับตอนสุดท้าย เวลาที่ 4 : No Cheap Excuse มิยาซากิเริ่มตระหนักถึงร่างกายที่เสื่อมถอย ทำให้เขามุ่งมั่นปฏิบัติงานโดยไม่พักผ่อน เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 กับการผลิตภาพยนตร์เรื่องใหม่ “ปีกแห่งฝัน วันที่รัก” (The Wind Rises) ดูหนังออนไลน์ เริ่มถึงจุดตีบตัน เขาจึงเริ่มทวนเหตุผลของการสร้างภาพยนตร์ของตัวเองอีกครั้ง

ถ้าไม่ใช่สาวกล่ะ มองสารคดีนี้จะอินไหม

สำหรับแฟนๆหรือสาวกผลงานของไม่ยาซากิหรือสตูดิโอจิบลิ ย่อมไม่สมควรพลาดสารคดีประเด็นนี้โดยเด็ดขาด แต่ว่าหากว่าคุณไม่ได้อินจัดกับจิบลิขนาดนั้น สารคดีหัวข้อนี้ก็เหมาะสมกับผู้ที่อยากแรงผลักดันแล้วก็พลังสร้างสรรค์เช่นกันนะ แล้วก็ดีไม่ดีคุณอาจจะอยากตามไปชมผลงานของไม่ยาซากิก็ได้ ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็มีให้ไล่มองกันอย่างสาแก่ใจในเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วล่ะ

"

หนังที่ได้เข้าชิงหนังไม่ดีของ MCU ยังมีตั้งแม้กระนั้น The Incredible Hulk (2008) ภาคแรกของฮัลค์ในจักรวาล Marvel สวมบทโดย Edward Norton ที่ทุกคนต้องการจะทำเป็นลืมๆมันไปซะ ตราบจนกระทั่งต้องหาดาราหนังใหม่อย่าง Mark Ruffalo มาล้างตาภาพเดิมของฮัลค์เสียใหม่ Iron Man 2 (2010) ที่ก็ดูน่าระอาจริงๆแล้วก็เทียบเคียงกันกับภาคแรกยังสนุกกว่าเยอะ ตัวร้ายก็มองสับสนและไม่เท่ แล้วก็ Avengers: Age of Ultron (2015) ที่ก็โดนข้อกล่าวหาสนุกไม่เท่าภาคแรกแถมยังมีตัวร้ายอย่าง Ultron ที่เล่นท่าง่ายร้ายแบบแข็งทื่อๆทำให้ภาค 2 ของ Avengers เหมือนทำมาแค่เรียกเงินจากผู้ชมแค่นั้น Ant-Man and the Wasp (2018) ก็ติดอันดับมาด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่าถูกกล่าวโทษจากแฟนคลับบางส่วนว่า ดูหนังออนไลน์ มันคือหนังกั้นเวลาระหว่าง Infinity War แล้วก็ Endgameแม้ใคร่ครวญในแง่ของรายได้ในสหรัฐอเมริกา บนตารางหนังทำเงินหรือ Box Office นั้น เรื่องที่ทำรายได้น้อยที่สุด 5 อันดับก็คือ The Incredible Hulk (2008) ที่ทำรายได้ไปต่ำสุดที่ 134 ล้านเหรียญฯ (โน่นเป็นจากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญฯ กระทั่งเรียกได้ว่าขาดทุนในบ้าน ดีที่ยังได้รายได้จากตลาดเมืองนอกช่วยไว้) เปลี่ยนเป็นหนังของ MCU เพียงเรื่องเดียวที่ถือว่าขาดทุนถ้าเกิดมองดูรายได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกา อันดับต่อมาเป็น Captain America: The First Avengers (2011) ทำไปที่ 176 ล้านเหรียญฯ ที่พอเข้าใจได้ว่าเป็นหนังภาคแรกที่แฟนคลับบางทีอาจยังไม่ทราบมากเท่าไรนักสำหรับหนังแนะนำตัว เช่นเดียวกับชั้นถัดมา Ant-Man (2015) ภาคแรกที่ทำรายได้ไป 180 ล้านเหรียญฯ แล้วก็ Thor (2011) ภาคแรกที่ทำรายได้ไป 181 ล้านเหรียญฯ ส่วนอันดับ 5 นั้นนับว่าเป็นหนังภาคต่อที่ทำรายได้น้อยที่สุดในเฟรนไชส์ก็คือ Thor: The Dark World (2013) ที่ทำไป 206 ล้านเหรียญฯถ้าเกิดวัดดูจากคะแนนของเว็บให้แต้มหนังจากทั้งยังฝั่งนักวิพากษ์วิจารณ์และก็ผู้ชมอย่าง Rotten Tomatoes Thor: The Dark World (2013) ก็ขึ้นแท่นหนังได้คะแนนน้อยสุดที่ 66% ตามมาด้วย The Incredible Hulk (2008) ที่ 67% Iron Man 2 (2010) ที่ 73% Avengers: Age of Ultron (2015) ที่ 75% และ Thor (2011) ที่ 77% ส่วนคะแนนวิจารณ์ของเว็บไซต์ iMDB.com ก็ให้คะแนน The Incredible Hulk (2008) ไว้ที่ 6.7/10 Thor: The Dark World (2013) ไว้ที่ 6.9/10 Captain America: The First Avengers (2011) ไว้ที่ 6.9/10 Iron Man 2 (2010) ที่ 7/10 รวมทั้ง Thor (2011) ไว้ที่ 7/10 ซึ่งจะมองเห็นได้ว่า คะแนนของผู้ชมและนักวิพากษ์วิจารณ์ก็สอดคล้องกับรายได้ของประเด็นนั้นๆที่น้อยที่สุดในบรรดาเรื่องอื่น ที่ก็อาจจะบอกได้ว่า “ห่วย” สุดกว่าเรื่องอื่นๆแม้กระนั้นหากจะมองผ่านสายตาของแฟนหนัง Marvel แล้วละก็ การที่หนังไม่เคยทำคะแนนต่ำลงยิ่งกว่า 60% หรือ 6/10 เลยจากทั้งยัง 2 เว็บไซต์ดัง (เวลาที่ฝั่งหนังจาก DC นั้นสกปรกกว่านี้มากอาทิเช่น Suicide Squad (2016) นั้นจัดไปที่ 27% และ Batman V Superman: Dawn of Justice (2016) นั้นก็จัดไปที่ 28% ของเว็บไซต์มะเขือเน่าเลยทีเดียว) ก็ชี้ให้เห็นว่า ถึงจะห่วยแตกที่สุดอย่างไรในกลุ่มแฟรนไชส์ตัวเอง ก็ยังดูสนุกรวมทั้งได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนคลับห่างจากเรื่องอื่นนอกจักรวาลอยู่หลายขุม รวมทั้งในตอน 5 ปีข้างหลังมานี้ก็ไม่มีเรื่องไหนคะแนนแย่หรือทำรายได้ห่วยแตกอีกเลย เป็นการโชว์เหนือว่า ทุกวันนี้ Marvel Studios ได้มาถึงจุดสูงสุดในทุกๆทางอย่างลงไม่ได้ (และก็คงไม่ได้อยากต้องการลง) แล้วนั่นเอง

"หนังเรื่องไหน “ไม่ดีที่สุด” ของ Marvel…หรือว่า Marvel ไม่เคยทำหนังห่วยๆเลย?

ในบรรดา 23 เรื่องของหนังจักรวาลมาร์เวลหรือ MCU นั้น อาจมีแฟนๆหรือคนชอบดูหนังเสนอคำถามว่า เรื่องไหนหรือภาคไหน “ห่วยสุดหรือยอดแย่ที่สุด” แต่ว่าก็ไม่แน่ว่าทั้งปวง 23 เรื่องนั้น สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังซูเปอร์ฮีโร ได้มองเห็นเรื่องราวของแต่ละนักแสดงมาโลดแล่นออกมาจากคอมิกหรือหนังสือการ์ตูน แค่เพียงนี้ก็ถือว่าเป็นความยอดเยี่ยมและไม่อาจเรียกว่าแย่และเป็นได้ มาถึงขณะนี้ที่เฟส 4 จะเริ่มด้วย Black ดูหนังออนไลน์ Widow หนังถูกเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมพฤษภาคมออกไปอย่างไม่มีระบุ พวกเราจะขอพาคุณคนอ่านกลับไปย้อนมองว่า หรือในความเป็นจริงแล้ว Marvel ทำหนังห่วยแตกไม่เป็น?นับจากเรื่องแรกของ MCU ตั้งแต่ Iron Man (2008) ภาคแรก จนกระทั่งภาคจบท้ายเฟส 3 อย่าง Spider-Man: Far From Home (2019) หลายคราที่จะมีความคิดเห็นว่า กระแสการตอบรับของผู้ชมอย่างล้นหลามนั้นมักจะสวนกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิจารณ์อยู่ตลอด อย่างที่หนัง Marvel ชอบโดนค่อนแคะจากนักวิพากษ์วิจารณ์ (หรือบางทีอาจร่วมถึงปู่ผู้กำกับ Martin Scorsese และก็สายช่วยเหลือแนวคิดของปู่) ว่าหนังฮีโรของ Marvel ชอบเดินตามสูตรสำเร็จเดิมๆเป็นเหล่าฮีโรแพ้ไปก่อนในตอนแรกและก็ฮึดกลับมาชนะจนได้ในช่วงท้าย…จบ)สำหรับภาพยนตร์ที่ติดอันดับหนังห่วยแตกในมุมมองของแฟน Marvel ยกตัวอย่างเช่น Thor: The Dark World (2013) หรือภาค 2 ของหนังเทวดาสายฟ้าที่ไปย้ำเรื่องความรักของธอร์รวมทั้งเจน ฟอสเตอร์แบบหละหลวมๆและไม่ได้นำพาเรื่องราวไปไหน กระทั่ง Thor: Ragnarok (2017) ได้นำความสดใหม่รวมทั้งแก้เกม พาหนังไปสู่แนวทางใหม่ได้เสร็จ"

"ยัยตัวร้าย “จวนจีฮุน” จะได้รับบทนำใน Kingdom ซีซัน 3 นักเขียนบท “คิม อึนฮี” บอก

สำหรับแฟนคลับของซีรีส์ Netflix อย่าง Kingdom ชื่อไทยว่า ผีดิบบ้าบัลลังก์เดือด คงจะเก็บซีซัน 2 แบบรวดเดียวจบกันไปแล้ว เนื่องจากว่ามีเพียงแค่ 6 EP ในซีซันนี้ ที่พอดูจบรวมทั้งคงได้แต่ว่าบอกว่าทำไมสั้นจัง แล้วก็จำต้องห้ามใจรอดูซีซัน 3 กันไปอีกพักใหญ่ (และจะต้องต่อสู้อยู่ให้รอดผ่านพ้น Covid-19 ไปด้วยกันให้ได้จนกระทั่งวันนั้นด้วย) ซึ่งซีซัน 2 นั้นก็ดูเหมือนจะให้ข้อสรุปสำหรับซีซัน 1 ได้อย่างปิดจบครบทุกหัวข้อ แต่อย่างที่มีข่าวโคมลอยตั้งแต่ตอนถ่ายทำรวมทั้งใน 2 นาทีสุดท้ายของซีซัน 2 ก็รับรองข่าวโคมลอยนั้นว่า “จวนจีฮุน” ผู้แสดงประเทศเกาหลีชื่อดังจากหนัง “ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม” (My Sassy Girl) จะมามีบทบาทด้วย รายงานปัจจุบันเผยออกมาว่า คุณบางทีก็อาจจะมารับไม้ต่อสำหรับเพื่อการเป็นดารานำด้วยคิม อึนฮี คนเขียนบทของซีรีส์หัวข้อนี้ซึ่งเป็นคนแต่งเรื่อง Kingdom มาตั้งแต่เป็นคอมิกบนเว็บ เรื่อง Land of the Gods ได้เคยออกมาบอกตั้งแต่ซีซันแรกบรรลุผลสำเร็จอย่างยิ่ง โดยได้รับอนุมัติทุนสร้างเฉลี่ย EP ละ 1.78 ล้านเหรียญฯ หรือราว60 ล้านบาทต่อตอน ขณะนั้นเธอพูดว่า คุณพร้อมจะเขียนบทให้ซีรีส์ชุดนี้มีกันไปยาวๆถึงซีซัน 10 อย่างยิ่งจริงๆ (ขอจัดกลุ่มให้ไปอยู่กับนักเขียน Game of Thrones, The ดูหนังออนไลน์ Witcher และก็ The Walking Dead ที่หากคนดูยังอยากมอง คนเขียนบทก็พร้อมเขียน (แถ) ออกทะเลไปได้เรื่อยๆไม่สิ้นสุด) โดยในซีซันที่ 2 นี้ ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางที่ดีเยี่ยมขึ้นกว่าซีซันแรก โดยได้คะแนน iMDB อยู่ที่ 8.6/10 สูงขึ้นมากยิ่งกว่าซีซันแรกที่ 8.3/10ในขณะที่เขียนบทและก็ปฏิบัติงานในซีซัน 2 ฉันอยากเขียนเรื่องนี้ให้เปลี่ยนเป็นจักรวาลขนาดใหญ่ ตอนนี้คนดูรู้จักเรื่องแล้วก็ผู้แสดงอย่างองค์ชายอีชาง แพทย์ซอบี และยองเคยชิน (นักต้มเล้งที่ส่งผลให้เกิดซอมบี้ในซีซัน 1) ทีมนี้เริ่มออกไล่ล่าโรคระบาดที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศเกาหลี (ตอนสุดท้ายของซีซัน 2 พวกเขาขึ้นไปทางภาคเหนือ)…ส่วนสำหรับปัญหาที่ว่าจวนจีฮุนนั้นจะมีหน้าที่แค่ไหนในซีซัน 3 “ฉันมีความรู้สึกว่าคุณจะแปลงเป็นหนึ่งในทีมตัวแสดงนำหลัก (ประกบคู่กับ จู จี ฮุน ในบทองค์ชายอีชาง ซึ่งทีแรกๆบทนี้จะเป็นของ ซง จุงกิ ติดที่จำต้องไปเตรียมงานแต่งกับ ซง เฮเคียวก่อน) ซีซัน 1 เราพูดถึงความต้องการ (ซึ่งเธอบางทีก็อาจจะซึ่งก็คืออำนาจ และก็เจ้าซอมบี้ที่หิวเนื้อคนจริงๆ) ซีซัน 2 เราเอ๋ยถึงเลือด ส่วนในซีซัน 3 จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวต้นกำเนินของโรคระบาดนี้ที่ซีซัน 1 แล้วก็ 2 ยังพูดไปไม่ถึง เราจะดำเนินการกันหนักขึ้นเพื่อให้แฟนคลับได้ชมกันอย่างสนุกจ้ะ” คิม ฮึนฮีกล่าว"

"The Cat Returns: เจ้าแมวยอดนักสืบ (2002)

ในระหว่างที่แมวตัวหนึ่งกำลังเดินข้ามถนน “ฮารุ” ผู้เรียนสาววัยมัธยมช่วยช้อนแมวขึ้นมาให้พ้นจากการเช็ดกรถบรรทุกชนได้สำเร็จ ทันใดนั้นฮารุต้องตระหนกตกใจกับสิ่งที่มองเห็นข้างหน้า เมื่อเจ้าแมวที่เธอช่วยเหลือไว้ลุกขึ้นยืนสองขาพร้อมโค้งคำนับ และกล่าวขอบคุณออกมาเป็นภาษามนุษย์ กับคำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาทดแทนพระคุณของฮารุ ถัดมาในคืนเดียวกันนั้นเอง คุณก็ได้พบกับเรื่องราวที่ทำให้ประหลาดใจมาขึ้น เมื่อมีขบวนพาเหรดซึ่งมีแมวจำนวนนับร้อยตัวมุ่งตรงมายังบ้านของเธอ นำโดยขบวนของพระราชาที่อาณาจักรแมว ที่ต้องการเดินทางมาแสดงความขอบพระคุณที่ได้ช่วยพระราชโอรส “ลูน” ลูกชายเพียงคนเดียว กษัตริย์แมวอยากได้ทดแทนบุญคุณด้วยการแต่งคุณเป็นพระชายาของเจ้าชายลูน

ภาพยนตร์เรื่อง The Cat Returns หรือ Neko ดูหนังออนไลน์ no Ongaeshi ได้ผลการงานดูแลของฮิโรยูกิ โมริตะ ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง Neko no Danshaku, Baron ของอาโออิ ฮิอิรากิ ซึ่งเป็นนักเขียนคนเดียวกับที่เขียน Whisper of the Heart ที่เป็นฉบับภาพยนตร์มาแล้ว ซึ่ง The Cat Returns ก็เป็นราวกับส่วนเติมเต็มของเรื่องนั้นอีกครั้งที่นำนักแสดง “บารอน” และ “มูน” กลับมาให้มองเห็นกันอีกครั้งในบทอัศวินของฮารุ หนังประเด็นนี้แม้จะถูกเห็นว่าสำเร็จงานคั่นเวลาของสตูดิโอจิบลิ (เพราะว่าไม่ได้กำกับโดยฮายาโอะ หรือทาค้างฮาตะ) แต่ก็ได้ผลสำเร็จงานของอีกหนึ่งมือดีของจิบลิที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง Kiki’s Delivery และก็ My Neighbors the Yamadas มาก่อน หนังเข้าฉายในปีที่ Spirited Away ได้ออสการ์แล้วก็ทำรายได้ไป 50.59 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

"